Thursday, January 16, 2014

งานเดิน-วิ่ง ภ.ป.ร. สามพรานมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน 2557

ไปไหนดีน้อ...
เช้าวันที่ 12 มกราคม 2557 หลังจากช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาตัดสินใจกันอยู่ว่าจะวิ่งงานไหนดี ระหว่าง เอสซีจี 100 ปี เดิน-วิ่งการกุศล สู่อนาคต กับงานเดิน-วิ่ง ภ.ป.ร. สามพรานมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน 2557 (14th King's College Sampran Mini-Half Marathon 2014)

งาน SCG เลื่อนมา 2 รอบ จนตารางรวนกันไปหมด แต่สุดท้ายก็ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ผมคุยกับเจ้าเมฆ ลูกชายคนโต ว่าอยากไปวิ่งที่ไหน ระหว่างระยะ 10.5 กม. กับ 14 กม. เมฆบอกว่าอยากลองระยะ 14 กม. เพราะท้าท้ายขึ้น และวิ่งที่สามพราน และอากาศก็น่าจะดีกว่า แถมยังไม่ไกลจากคอนโดนัก แค่ 31 กม.เท่านั้นเอง ก็เลยตกลงกันว่า เราจะไป ภปร.ราชวิทยาลัย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

ซักซ้อมแผนการวิ่ง
ระยะที่ไกลขึ้น จะต้องวางแผนการใช้กำลังให้เหมาะสม เมฆไม่ได้ซ้อมวิ่งระยะไกลมากนัก อาศัยความเป็นวัยรุ่นมีพลังงานล้นเหลือ แต่ก็คงไม่พอสำหรับระยะทางขนาดนี้แน่ จะวิ่งความเร็วเดียวกับมินิมาราธอน อาจจะทำให้หมดแรงก่อนถึงเส้นชัย จะไม่สนุก 

ก็เลยแนะนำลูกว่า ควรจะดึงจังหวะการวิ่งสักหน่อย (ราวๆ 6:30 นาที/กม.) แล้วถ้าแรงเหลือก็ค่อยไปใช้ช่วงกม. ท้ายๆ 

คืนก่อนวิ่งและการเตรียมตัวก่อนออกจากบ้าน
เราเข้านอนหัวค่ำ และตื่นเกือบตี 4 ทำธุระส่วนตัว เปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้แล้วตั้งแต่ก่อนเข้านอน ผมแนะนำลูกในทุกขั้นตอน ว่าให้ไล่ตั้งแต่หัวไปถึงเท้า (หมวก หูฟัง ไอพอด สายรัดแขน เสื้อวิ่ง กางเกงใน กางเกงวิ่ง สายคาดเอว ถุงเท้า รองเท้า) เพราะถ้าเราทำจนคุ้น เราจะไม่ลืมหรือละเลย ส่วนผมเองก็ต้องมีรายการมากขึ้น เช่นกุญแจรถ รวมทั้งก่อนเข้านอน ทบทวนเส้นทางทั้งขาไปและกลับ จะได้ไม่ต้องมาเร่งกันตอนเช้า

จากนั้นก็ทานขนมปังปิ้งทาเนยถั่ว กับกาแฟ นมผสมโกโก้ ขนมเปี๊ยะใส้ไข่เค็ม รองท้องกันพอสมควร กับระยะทาง เราก็ออกจากคอนโดเวลา 4:30 น. ตามที่วางแผนไว้เป๊ะ

บรรยากาศก่อนวิ่ง
ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึง ภปร.ราชวิทยาลัย อากาศเย็นสบาย คนมากันเยอะแล้ว เพราะฮาล์ฟปล่อยตัวก่อนมินิ ผมจอดรถแล้วก็เปลี่ยนรองเท้า จากนั้นเราก็เดินไปสมัครรายการมิมิมาราธอนกัน 

เต๊นท์รับสมัครมีคนมาก แต่การจัดการดี มีช่องบริการเยอะ ใช้เวลาแป๊บเดียวก็เรียบร้อยทั้งพ่อและลูก งานนี้เค้าแจกเสื้อแขนสั้น (อยากได้แขนกุดหรือเสื้อกล้ามวิ่งมากกว่า) เสร็จแล้วก็กลับเอาของไปไว้ที่รถกัน


บรรยากาศในงานก่อนปล่อยตัวฮาล์ฟมาราธอน

ผมไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง (ไม่รู้เป็นอะไร วิ่งรายการไหน ต้องไปทิ้งหลักฐานเอาไว้ทุกทีสิ) ก็เลยได้เจอพี่ประสงค์ พี่ชายที่จะลงมาราธอนจอมบึงด้วยกัน พี่เค้าลงฮาล์ฟเลย!! พี่เรานี่ฟิตสุดๆ แล้ว บอกผมว่าพัก 2 วันก็หายละ (ส่วนผมล่ะตอนนี้ถนอมตัวเองสุดๆ กลัวเจ็บ กลัวไม่ได้ไปจอมบึง)


ปล่อยตัวฮาล์ฟมาราธอน
ก่อนที่เราจะเริ่มวอร์มและยืดเหยียด ก็เดินไปถ่ายรูปนักวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอน ซึ่งมาราวๆ 300 คน ผมบอกตัวเองว่า ปีหน้าคงมาลงฮาล์ฟแน่ๆ เพราะงานจัดได้ดี อากาศช่วงนี้ก็ดี

หลังจากการกล่าวเปิดเรียบร้อย ประธานก็ปล่อยตัวในเวลาเกือบ 5:50 น. ช้าไปนิดนึง


ปล่อยตัวนักวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอน


มินิมาราธอน
เราวิ่งจ๊อกกันราวๆ 5 นาที แล้วก็ยืดเหยียด จนถึงเวลาที่ผู้ประกาศเรียกตัวนักวิ่งมินิมาราธอนเข้าจุดสตาร์ทกัน กะๆ จากสายตา ก็ไม่น่าจะถึง 1,000 คน แต่ก็มีน้องๆ นักเรียนของ ภปร.ราชวิทย์มาวิ่งระยะนี้ด้วยเยอะเหมือนกัน

ประธานปล่อยตัวเวลา 6 โมงตรง และเพราะเราอยู่แถวหลังๆ ทำให้ต้องเดินแหวกน้องๆ นักเรียน ซึ่งตั้งแถวกันใหม่สำหรับระยะ Fun Run กว่าจะได้เริ่มออกวิ่งกันจริงๆ

เราวิ่งย้อนใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน แล้วอ้อมขึ้นสะพาน ตามถนนเพชรเกษม ตรงไปเข้าถนนเส้นรองที่จะไปยังวัดไร่ขิง (เพิ่งรู้ว่าวัดไร่ขิงอยู่ที่นี่ ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก) หลังจากวิ่งผ่านกลางวัด เราทะลุออกไปเพื่อเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนกันอีกครั้ง ตอนนี้ ฟ้าเริ่มสว่างมีสีแดงส้มจากทางทิศตะวันออก

บรรยากาศก่อนปล่อยตัว และระหว่างเส้นทางวิ่ง


การมาวิ่งเช้าๆ แล้วเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในสถานที่ไม่ซ้ำกันแบบนี้ ผมว่ามันเป็นกำไรชีวิตจริงๆ นอกเหนือไปจากอากาศดีๆ

เราวิ่งลัดเลาะไปตามถนน ตามเส้นทางที่กำหนด ผู้จัดปิดถนน 1 เลน และให้รถวิ่งได้ช้าๆ อีกเลน ก็ถือว่าปลอดภัยดี เพราะเช้าแบบนี้รถยังน้อย เราไม่ต้องสูดควันไอเสียกันมาก สภาพทางเองถึงจะไม่ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่แย่ขนาดต้องมองพื้นกันตลอด

ช่วง 5 กม.แรก เราทำเวลากันได้ดี ความเร็วเฉลี่ย 6 นาที/กม. เร็วกว่าที่วางแผนกันไว้ ตอนปล่อยตัวผมบอกลูกว่าถ้าจะวิ่งเร็วก็ดูแรงตัวเองด้วย แต่ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องรอ เพราะผมกะวิ่งไม่ให้เร็วกว่า 6 นาที/กม. จะได้คุ้นกับความเร็วสำหรับวิ่งมาราธอน เมฆบอกว่าอยากให้วิ่งไปด้วยกัน จะได้ดูความเร็วให้ด้วย แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน และเหมือนทุกครั้ง (ยกเว้นงาน นครธน มินิมาราธอน ที่เจ้าเมฆแซงผมไปจนจบ ตั้งแต่ 4 กม. แรก) ที่ผมจะหันกลับไปชูนิ้วโป้ง เพื่อเช็คความเหนื่อย สภาพความพร้อมของลูก และก็ได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ เป็นสัญญาณสากลที่รู้กันว่าโอเค ยังไหว

พอผ่าน 7 กม. ผมหันกลับไป แต่เมฆอยู่หลังไปเกือบ 20 เมตร เลยต้องชะลอฝีเท้าแล้วเช็คความพร้อม ลูกบอกว่าเหนื่อยนิดหน่อย ผมจึงปรับลดความเร็วลงอีก เพื่อให้ลูกได้ฟื้นตัว ระหว่างเส้นทางเราแวะดื่มน้ำทุกครั้ง และต้องชมว่าจุดบริการน้ำดื่มพร้อมมากๆ ทุกจุด และน้องๆ ก็บริการกันเต็มที่ มีทั้งแบบยื่นรอให้สำหรับนักวิ่งที่จะ "โฉบน้ำ" และที่ตั้งบนโต๊ะ รอนักวิ่งเดินมาหยิบเอง

ที่ระยะ 9 กม. เมฆเอาแรงมาจากไหนไม่รู้ สปีดหนีขึ้นไปดื้อๆ ซะยังงั้น แต่ผมไม่ได้สปีดตาม เพราะยังเหลืออีกหลายกิโล แล้วสุดท้ายราวๆ 11 กม. ผมก็ตามมาทัน เพราะเมฆสปิดตกอีกครั้ง


ระยะ 1 กม. สุดท้าย / รับเหรียญ / ดื่มน้ำมะพร้าวน้ำหอม เย็นชื่นใจ

จากระยะ 11 กม. จนถึงเส้นชัยที่ 12.5 กม. เราวิ่งความเร็วที่วางแผนไว้ ไม่เร่ง ไม่ผ่อน และจบแบบสนุกกันอีกครั้ง 

ตามเส้นทาง เราได้เห็นสวนผักนานาชนิด ได้กลิ่นดอกมะม่วงหอมจางๆ ลอยตามลม มีกลิ่นไม่พึงประสงค์บ้างบางช่วง แต่อากาศเย็นๆ สบายตอนเช้า กับเส้นทางแปลกตา ทำให้เป็นรายการที่น่าประทับใจอีกรายการหนึ่ง

วิ่งจบ รับเหรียญ และกินๆๆๆ
ถ้าถามเจ้าเมฆว่าชอบรายการวิ่งไหนมากที่สุด จะได้รับคำตอบว่า งานที่มีของกินอร่อยๆ มีให้เลือกหลายๆ อย่าง ซึ่งนั่นก็จริงอยู่ไม่น้อยเลย เพราะหลังวิ่งจบ เราจะหาอะไรกินกันจนอิ่มพอประมาณก่อนจะกลับบ้านกันทุกครั้ง

เราเข้าเส้นชัยพร้อมกัน ผมจับมือลูกชูขึ้นตอนที่โปรตุ้ม แห่ง ShutterRunning เก็บภาพที่ช่วง 30 เมตรสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ได้ภาพสวยๆ คู่กับลูกอีกภาพนึง 

เราไม่เคยเห็นเหรียญงานนี้มาก่อน และรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเหรียญขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้ม และออกแบบสวย มีตรา ภปร.งดงามตรงกลาง และแถบริบบิ้นโลหะสีฟ้าด้านล่างก็เป็นลายนูน 3 มิติ ไม่ใช่แบนๆ ทั้งเหรียญอย่างงานทั่วไป


รับเหรียญ และผลัดกันถ่ายรูปกับลูก


เหรียญด้านหน้าและด้านหลัง / ถ่ายภาพคู่กับลูกที่เส้นชัย

รับเหรียญเสร็จ เราก็ยืดเหยียดกันพอประมาณ แล้วก็เดินไปรับมะพร้าวน้ำหอม ที่แช่เย็นกำลังดี มีคนเฉาะเปิดให้กินกันสดๆ เย็นชื่นใจจริงๆ หลังจากถ่ายภาพตามจุดต่างๆ ก็ได้เวลามื้อเช้า ที่ทางสมาคมผู้ปกครองและครูของ ภปร.ราชวิทยาลัย เตรียมกันมาแบบจัดเต็ม



มะพร้าวน้ำหอมขึ้นชื่อของนครปฐม / ข้าวไข่เจียวกับไก่ทอดของเมฆ / ขนมปังสังขยา / กะเพราะปลา

อาหารมีให้เลือกเยอะจนไม่รู้จะเริ่มจากไหนก่อน เราหามุมสบายๆ นั่งกินไปทีละอย่าง แล้วพักเดียวพี่ชายผมก็เข้ามาแจม นั่งคุยกันไปกินอาหารเช้าไป บรรยากาศเป็นกันเองยิ้มแย้มทุกคน



บรรยากาศหลังวิ่งเสร็จ / สมัครระยะมินิ งานไทย-ซิกข์ ให้เมฆ

งานนี้พี่ชายผมทำสถิติฮาล์ฟมาราธอนใหม่ ด้วยเวลา 1:48 ชั่วโมง !!!! เร็วมากๆ ผมคิดว่าปีนี้ถ้าได้ต่ำกว่า 1:55 ชั่วโมงก็ดีใจแล้วล่ะ ค่อยๆ พัฒนาตัวเองไป


ผมได้วิ่งทั้งลากทั้งประคองลูก จนถึงเส้นชัยอีกครั้ง เมฆยังต้องฝึกเรื่องการแบ่งกำลังให้เหมาะสม หลังวิ่งถามได้ความว่า ตอน 7 กม. แรงหมด เพราะคิดว่า วิ่ง 7 กม. แล้วเพิ่งได้ครึ่งทางเอง ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับนักวิ่งหน้าใหม่เยอะ ที่พอวิ่งไป 3-4 กม. แล้วจะหมดแรงไปดื้อๆ ซึ่งทั้งที่จริงแล้วกำลังยังมีเหลือๆ แต่ใจมันยังไม่สู้ แค่นั้นเอง


ถ่ายคู่กับพี่ประสงค์ และบรรยากาศเต๊นท์อาหาร

งานเดิน-วิ่ง ภ.ป.ร. สามพรานมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ... เราจะกลับมาใหม่

โดยรวม งานนี้ถือว่าจัดได้มาตรฐานและประสบความสำเร็จ มีนักวิ่งมาร่วมงานเยอะ การเตรียมงานดีมาก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดูแลกันอย่างเต็มที่ เหรียญสวย อาหารอร่อย อากาศดี ที่จอดรถเพียงพอ และระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย 

ปีหน้าเราจะมาอีกแน่นอน ^^


จับมือลูกวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน ความสุขของคนเป็นพ่อ


ระยะฮาล์ฟมีใบประกาศฯ สวยๆ ให้ด้วย ปีหน้าจะไม่พลาด





No comments: